เบสออยล์ (Base oil) คืออะไร?


จะเห็นได้ว่า PPMC จะเน้นเรื่องเบสออยล์ (Base oil) ค่อนข้างมาก ในขณะที่ผู้จำหน่ายรายอื่นๆไม่ค่อย พูดถึงกัน มาทำความรู้จักเบสออยล์แบบเข้าใจง่ายๆกันดีกว่า เบสออยล์ คือ น้ำมันพื้นฐานที่ใช้ผลิตน้ำมันเครื่อง หรือ จารบี ผู้ผลิตจะนำเบสออยล์มาผสมกับสาร เติมแต่ง (Additive) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของน้ำมันเครื่องให้ดีขึ้น โดยมากอัตราส่วนของเบสออยล์ จะมากถึง 97-99% และที่เหลือเป็น Addtive จะเห็นได้ว่าเบสออยล์คือหัวใจหลักของน้ำมันเครื่องเลยล่ะ เบสออยล์ ได้กำหนดมาตรฐานเพื่อจัดกลุ่มโดย API (American Petroleum Institute) ซึ่งแบ่งเป็นกลุ่ม หลักๆอยู่ 5 กลุ่ม ดังนี้





กลุ่ม 1 (Mineral Base Oil) ต้นทุนต่ำ มีความหนืดสูง สีเข้ม นิยมใช้ผลิตจารบี, น้ำมันเครื่องจักร, น้ำมันเครื่องรถบรรทุกใหญ่


กลุ่ม 2 (Hydrocracking) นิยมใช้ผลิตน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ ในบางแบรนด์ใช้กลุ่ม 2 ผสมกับกลุ่ม 3 เพื่อให้ผ่านมาตรฐาน "สังเคราะห์แท้" แต่จะเน้นกลุ่ม 2 เป็นหลักเพื่อให้ได้น้ำมันเครื่องราคาต่ำ เน้นการแข่งขันด้านราคาไม่เน้นคุณภาพ


กลุ่ม 3 (High Viscosity Index Synthetic Base Oil) เป็นเกรดดีที่สุดที่เหมาะกับการหล่อลื่นเครื่องยนต์ และไม่กัดซีลยาง น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ของแบรนด์คุณภาพจะใช้กลุ่ม 3 กลุ่มเดียวผสม Additive ผู้ใช้งานจะรู้สึกได้ถึงความแตกต่างระหว่างน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ที่ผสมเบสออย์กลุ่ม 2 กับ ไม่ผสม


กลุ่ม 4 (PAO - Poly Alpha Olefin) คุณภาพสูง การผลิตยากและต้นทุนสูง เหมาะกับเครื่องยนต์รอบจัดมากๆ เช่น รถแข่ง แต่มีข้อเสียทำให้ซีลยางแข็งเร็ว จึงไม่สามรถใช้กลุ่ม 4 อย่างเดียวได้ จึงต้องผสมกลุ่ม 3 และ Additive เพื่อลดข้อเสียดังกล่าว หลายๆแบรนด์พยามยกระดับน้ำมันเครื่องโดยเน้นจุดขายด้วยการชู PAO มีราคาหลากหลายบางแบรนด์ แต่ช้าก่อน!!! แต่ละแบรนด์มีสัดส่วนในการผสม PAO ที่แตกต่างกันออกไป ตั้งแต่ 5-75% แหละผู้จำหน่ายบางราคาที่ไม่ทราบถึงความแตกต่างตรงนี้เห็นว่าเป็น PAO ก็ตั้งราคาสูง ดังนั้นการที่หน้าฉลากเขียนว่า PAO จึงยังไม่อาจตัดสินได้ว่าน้ำมันเครื่องตัวนี้มีคุณภาพตามราคาเสมอไป


กลุ่ม 5 (Polyester/Ester) คุณภาพสูงที่สุด กรรมวิธีการผลิตยุ่งยากที่สุด ต้นทุนสูงมาก จึงไม่ค่อยมีการนำมาผลิตน้ำมันเครื่อง (Millers Oils ที่ผสมกลุ่ม 5 มีในรุ่น EE Performance และ CFS)





น้ำมันเครื่อง Millers Oils EE Performance ผลิตจากเบสออยล์กลุ่ม 3 (HVI) ผสมกลุ่ม 4 (PAO) และผสมกลุ่ม 5 (Ester) โดยมีเบสออยล์กลุ่ม 5 (Ester) ผสมกันอีก 3 สูตร




นอกเหนือจากนี้ยังมีกลุ่มไม่เป็นทางการของเบสออยล์ที่ยังไม่ได้รับการรับรองจาก API คือกลุ่ม 2+, 3+ และ 6 โดยมีรายละเอียดดังนี้


กลุ่ม 2+ (Hydrotreating) จะมีค่า Viscosity Index อยู่ระหว่างกลุ่ม 2-3 บางแบรนด์ใช้กลุ่ม 2+ แทนกลุ่ม 2 เพื่อผสมกับกลุ่ม 3 ให้ผ่านมาตรฐาน "สังเคราะห์แท้"


กลุ่ม 3+ (Very High Viscosity Index - VHVI) จะมีค่า Viscosity Index อยู่ระหว่างกลุ่ม 3-4 มีคุณภาพสูง น้ำมันเครื่องส่วนใหญ่ที่ PPMC เลือกมาจำหน่ายจะอยู่ในกลุ่มนี้


จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่าน้ำมันเครื่องมีหลายเกรด และเบสออยล์ก็ยังไม่ใช่ทั้งหมดในการตัดสิน เพราะคุณภาพของน้ำมันเครื่องที่เบสออยล์กลุ่มเดียวกัน ก็ยังแตกต่างกันด้วยสูตร Additive ที่ใช้อีก ซึ่งในตลาดที่มีหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายราคา ไม่อาจตัดสินด้วยราคาได้เสมอไปว่าน้ำมันเครื่องแบรนด์นั้น รุ่นนั้น ดีสมราคาหรือไม่ ผู้ใช้จึงควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อน้ำมันเครื่องมาใช้เพื่อความคุ้มค่า และได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการขับขี่รถยนต์


ด้วยความปรารถนาดีจาก PPMC Lubricants